เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 5 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งว่าที่โรงพยาบาลป่าโมก จ.อ่างทอง ได้มีกลุ่มวัยรุ่นจำนวนมาก แห่กันไปดูศพของเพื่อน หลังเพื่อนถูกกลุ่มคู่อริไล่กวดตามหาเรื่อง จนต้องขี่รถหนีแล้วเสียหลักพุ่งชนรถพ่วงจนเสียชีวิต หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบยังโรงพยาบาลป่าโมก เมื่อไปถึงพบบริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลมีกลุ่มวัยรุ่นกว่า 20 คน ได้จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
จากการสอบถามทราบว่า เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. วันนี้ ได้เกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งชนรถพ่วงที่กำลังจะเลี้ยวเข้าโกดังน้ำตาล เป็นเหตุให้มีบาดเจ็บสาหัส 1 ราย และเสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดบริเวณหน้าโกดังน้ำตาลของ บริษัทร่วมกิจอ่างทองคลังสินค้า จำกัด ริมถนนสายอ่างทอง-ป่าโมก (สายใน) หมู่ที่ 2 ต.ป่าโมก อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ซึ่งในที่เกิดเหตุ พบรถพ่วงยี่ห้อฮีโน่ หมายเลขทะเบียนตัวแม่ 70-2851 นครสวรรค์ หมายเลขทะเบียนตัวลูก 70-2931 นครสวรรค์ จอดอยู่ในสภาพบริเวณกันชนหน้าเหล็กยุบงอ ใต้รถพ่วงด้านหน้า พบรถจักรยายนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีขาว หมายเลขทะเบียน กนธ-705 อ่างทอง ล้มอยู่ด้านใน
ใกล้กันพบศพนายศิริศักดิ์ กลิ่นชู อายุ 18 ปี อยู่ ต.ป่าโมก อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง นอนเสียชีวิตอยู่ในสภาพนอนคว่ำหน้าลำตัวบิดงอ มีเลือดไหลออกจากปากและจมูกเป็นจำนวนมาก ห่างออกไปไม่มากพบร่างนายสิงหราช คำมี อายุ 18 ปี อยู่ ต.ป่าโมก อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง นอนหายใจรวยรินอยู่ในสภาพมีเลือดออกจากปากและจมูก เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องรีบเข้าไปทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลป่าโมก แต่เนื่องจากนายสิงหราชอาการสาหัสมากเป็นตายเท่ากัน โรงพยาบาลป่าโมก จึงส่งตัวให้กับทางโรงพยาบาลอ่างทอง และส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสระบุรีตามลำดับ ซึ่งตอนนี้ยังไม่พ้นขีดอันตราย ส่วนศพของนายศิริศักดิ์นั้นทางแพทย์โรงพยาบาลป่าโมกให้นำศพกลับมาชันสูตรยังโรงพยาบาลป่าโมก
จากการสอบถามนายทรงพลเอี่ยมสะอาด อายุ 23 ปี อยู่ ต.ป่าโมก อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง เพื่อนของผู้ตายและผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายพร้อมด้วยตน และเพื่อนๆ อีกกว่า 10 คัน ได้เดินทางไปดูการเกณฑ์ทหารที่หอประชุมของที่ว่าการอำเภอป่าโมก ระหว่างที่กำลังดูอยู่นั้น ได้พบกับกลุ่มของนายกุ้ง นายวุฒิ และนายตั้ม ซึ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่รู้จักกันในนามกลุ่มเด็กบ้านสาย และพวกกลุ่มบ้านสำเภาลอย ซึ่งเป็นคู่อริที่เคยมีเรื่องกันมา และอยู่คนละหมู่บ้าน เกิดมาเขม่นกันในงานเกณฑ์หหาร จนมีการมาฉุดกระชากกัน โดยมีพวกผู้ใหญ่บ้านเห็นเหตุการณ์และไปแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ
พวกตนเห็นท่าไม่ดีจึงได้ไปบอกให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพาออกมานอกบริเวณ เพื่อจะได้เดินทางกลับบ้าน ซึ่งระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพาพวกตนออกมา กลุ่มเด็กบ้านสายและสำเภาลอย ได้พยายามปีนรั้วที่ว่าการอำเภอตามออกมา จนตนต้องรีบขึ้นรถหนี โดยตนพร้อมเพื่อนอีกประมาณ 8 คน ได้ขึ้นรถกระบะขับหนีออกมา ส่วนนายศิริศักดิ์ได้ขี่จักรยานยนต์หลบหนีออกมา โดยมีนายสิงหราชซ้อนท้าย แล้วขับหลบหนีกันไปคนละทาง ซึ่งตนมารู้อีกที ตอนที่แฟนตนบอกว่านายศิริศักดิ์กับนายสิงหราชถูกกลุ่มเด็กบ้านสายและสำเภาลอยไล่กวดตามไป จนรถไปเกิดอุบัติเหตุชนกับรถพ่วงจนเสียชีวิตและบาดเจ็บ
ด้านนายสำรวย อุ่นใจ อายุ 30 ปี อยู่ ต.วังตะแบก อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร คนขับรถพ่วง กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถมาเพื่อจะส่งของยังโกดังของบริษัทดังกล่าว ขณะจอดรอจะเลี้ยวเข้า ก็ได้สังเกตเห็นว่า หน้าถนนที่ตนขับมานั้น ได้มีกลุ่มวัยรุ่นจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์กว่า 10 คัน ขี่ไล่กวดตามรถของผู้ตายมาด้วยความเร็ว จากนั้นผู้ตายได้ขี่รถมา แล้วหักรถหลบกลุ่มคู่อริ มาพุ่งชนเข้าที่หน้ารถของตนอย่างจัง ตนตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก ซึ่งเมื่อรถของผู้ตายพุ่งชนแล้ว กลุ่มวัยรุ่นที่ไล่กวดตามมา ได้กรูกันลงจากรถแล้วมาล้อมตรงที่เกิดเหตุ แล้ววัยรุ่น 4-5 คน ได้วิ่งมารุมกระทืบผู้ตายและเพื่อนที่นอนบาดเจ็บอยู่อย่างไม่ยั้ง โดยระหว่างที่กระทืบตนได้ยินเสียงตะโกนว่า “พวกมึงเก่งนักใช่มั้ย” จากนั้น กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวก็ขี่รถหลบหนีกันไป
ส่วนนายประจักษ์ เกษมสุข อายุ 57 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัย ของบริษัท ร่วมกิจอ่างทองคลังสินค้า จำกัด ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ ได้กล่าวว่า ระหว่างที่ตนกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้น รถพ่วงกำลังรอที่จะเลี้ยวเข้าไปในบริษัทฯ เป็นจังหวะเดียวกับที่ผู้ตายได้ขี่รถจักรยานยนต์มาพร้อมกับเพื่อน โดยมีกลุ่มวัยรุ่นที่ขี่รถจักรยานยนต์มากว่า 10 คัน เต็มท้องถนน ขี่มาอีกด้าน เมื่อเจอกัน ก็ขี่รถตรงเข้าหารถของผู้ตาย จากนั้นผู้ตายพยายามขี่รถหลบหนี แต่เนื่องจากรถของกลุ่มตรงข้ามมีจำนวนมาก ผู้ตายจึงหักรถหลบแล้วเสียหลักพุ่งชนเข้ากับรถพ่วงเสียงดังโครม
โดยหลังจากชนแล้วผู้ตายก็เสียชีวิตอยู่คาที่ด้านหน้ารถพ่วง ส่วนเพื่อนที่ซ้อนท้ายมากระเด็นไปประมาณ 2 เมตร แล้วจากนั้นจู่ เรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อกลุ่มวัยรุ่นคู่อริได้กรูกันลงมาจากรถจักรยานยนต์ โดยวัยรุ่นประมาณ 5 คน ได้เข้ามารุมกระทืบผู้ตาย และผู้บาดเจ็บอย่างไม่ยั้ง มิหนำซ้ำ 1 ในกลุ่มวัยรุ่นได้ถือประแจขนาดใหญ่ ตรงเข้ามาจะฟาดผู้ตาย ตนเข้าไปห้ามโดยบอกว่าอย่าไปทำเขาเลย ไหน ๆ เขาก็ตายแล้ว ขอเถอะ จากนั้นวัยรุ่นคนดังกล่าว ก็ได้หันไปมองที่ศพ แล้วก็หันกลับ ก่อนที่จะพากันขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีไป
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามกับร.ต.ท.อำนาจ มีทองคำ ร้อยเวร สภ.ป่าโมก จ.อ่างทอง เจ้าของคดี ทราบว่า คดีดังกล่าวนั้นแบ่งเป็น 2 เหตุการณ์ โดยเหตุการณ์แรกนั้น เป็นเหตุอุบัติเหตุทางจราจร ซึ่งก็ว่ากันไปตามกฎหมาย ส่วนเหตุการณ์ที่ 2 เป็นเหตุการณ์ทำร้ายร่างกาย ซึ่งตอนนี้พอจะรู้กลุ่มของผู้ก่อเหตุแล้ว ซึ่งจะได้เรียกกลุ่มเพื่อนๆ ของผู้ตาย และพยานที่เห็นเหตุการณ์มาสอบปากคำ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น