การก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในช่วงปลายปี 2558 ถือเป็นอีกบทบาทสำคัญที่หลายภาคส่วนต่างเตรียมความพร้อมรับมือ
ไม่ว่าจะเป็นความพร้อมรองรับการหลั่งไหลของนักท่องเที่ยวและแรงงานต่างชาติ รวมถึงวางมาตรการป้องกันเหตุอาชญากรรมที่อาจเกิดขึ้น
ด้วยเหตุนี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. จึงมอบหมายให้ พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ รองผบ.ตร. ในฐานะประธานกรรมการการขับเคลื่อนการปฏิบัติเพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) จัดทำโครงการเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติงาน เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
เริ่มจากการวางระบบช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ โดยสั่งการให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองรับไปดำเนินการ เพื่อลดขั้นตอนและระยะเวลา
เดิมใช้เจ้าหน้าที่ตรวจต้องใช้เวลา 45 วินาทีต่อคน แต่ถ้าเป็นระบบช่องตรวจหนังสือ เดินทางอัตโนมัติ ใช้เวลาเพียง 20 วินาทีต่อคนเท่านั้น ทำให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว
ต่อมาเตรียมวางระบบตรวจผู้โดยสารล่วงหน้า โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะเข้าไปตรวจสอบข้อมูลผู้เดินทางเข้า ประเทศ ตั้งแต่เช็กอินกับเคาน์เตอร์ของสายการบิน
หากพบเป็นบุคคลต้องห้ามหรืออยู่ในบัญชีเฝ้าดูของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จะรายงานไปยังสายการบินให้พิจารณาการเดินทางทันที
นอกจากนี้ยังเตรียมเชื่อมโยงระบบหนังสือเดินทาง ด้วยการจัดตั้งศูนย์ตรวจหนังสือเดินทางปลอมทุกสนามบิน เพื่อคัดกรองบุคคลที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติ บุคคลที่มีประวัติการกระทำผิดในต่างประเทศ บุคคลที่ใช้หนังสือเดินทางที่แจ้งหายไว้ในประเทศสมาชิกตำรวจสากล 190 ประเทศทั่วโลก
หากพบตัวบุคคลที่มีประวัติ เจ้าหน้าที่จะเข้าจับกุมและส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนทันที คาดระบบนี้จะนำมาใช้ก่อนเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
เมื่อวางระบบการดำเนินงานจนมีความพร้อมแล้ว ในส่วนของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานก็มีความจำเป็นต้องได้รับการฝึกฝนด้วยเช่นกัน
จึงเตรียมตั้งศูนย์ต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อทำหน้าที่ลงข้อมูลแจ้งเตือนอาชญากรรม และเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานอื่น
โดยหน่วยงานนี้จะช่วยป้องกันชาวต่างชาติที่ทำผิดแล้วถูกส่งกลับประเทศ แต่อาจเปลี่ยนชื่อนามสกุลใหม่ เพื่อลอบกลับเข้ามาในประเทศไทยซ้ำอีก
ขั้นตอนการทำงานจะเชื่อมโยงข้อมูลอาชญากรรมข้ามชาติกับองค์กรตำรวจสากล เพื่อช่วยคัดกรองบุคคลอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ส่วนการสื่อสารกับบรรดาชาวต่างชาตินานาประเทศ เตรียมจัดหาล่าม เพื่อทำหน้าที่แจ้งสิทธิในกรณีถูกขึ้นบัญชีเป็นบุคคลต้องห้าม เนื่องจากคนต่างด้าวส่วนใหญ่ไม่ค่อยทราบสิทธิ ข้อจำกัด และข้อห้ามในการเดินทางไปต่างประเทศ
สำหรับการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นก็มีความสำคัญเช่นกัน จึงเตรียมแจ้งหมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้ 24 ช.ม. พร้อมรายชื่อเจ้าหน้าที่รับผิดชอบไปยังทุกภาคส่วน เพื่อให้การทำงานคล่องตัว
สุดท้ายเตรียมจัดทำคู่มือการปฏิบัติงานให้ความรู้และแนวทางการคัดกรองบุคคลต่างด้าว โดยส่วนนี้จะเป็นรายละเอียดของข้อกฎหมายสากลที่มีความสำคัญกับการทำหน้าที่
โดยเตรียมจัดทำเป็น 10 ภาษาของประเทศ ในอาเซียนและประเทศอื่นๆ ซึ่งมี พ.ต.อ. คมสัน สุขมากรอง ผบก.สถาบันส่งเสริมงานสอบสวน ทำหน้าที่ประสานความร่วมมือไปยังกรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศ และสถานทูตของประเทศต่างๆ
นอกจากการวางระบบตรวจสอบการเดินทางเข้าประเทศอย่างเข้มข้น พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ยังลงพื้นที่ตรวจความพร้อมตามด่านตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหารและภูเก็ต
เบื้องต้นที่ด่านตม.มุกดาหาร ได้ปรับพื้นที่ตรวจบุคคลเข้าออก และพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในการตรวจคนเข้าเมืองให้ทันสมัยมีมาตรฐาน โดยประสานความร่วมมือกับสปป.ลาว
ขณะที่ตัวบุคคลได้ฝึกอบรมทักษะภาษาอังกฤษ ภาษาลาว ภาษาเวียดนาม และภาษาจีนให้กับเจ้าหน้าที่ด้วย
ส่วนด่านตม.ภูเก็ต ได้เตรียมความพร้อมด้านรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาทางเรือ บริเวณท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง
รวมทั้งยังร่วมลงนามการให้บริการศูนย์ควบคุมเรือยอชต์ และพัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์ในการเดินทางผ่านเข้าออก เพื่อให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว
พล.ต.อ.วุฒิ ยังมอบนโยบายเพิ่มเติมด้วยว่า เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวมากขึ้น อาทิ การติดตั้งกล้องวงจรปิดให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เพิ่มการติดตั้งแสงส่องสว่างในพื้นที่เสี่ยงอาชญากรรมทั้งหมด
นอกจากนี้ต้องเพิ่มระดับการมีส่วนร่วมของประชาชนในการเฝ้าระวังอาชญากรรม ยาเสพติดและการก่อการร้าย
โดยเชื่อว่าทั้งหมดนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่และประชาชนในการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนที่จะมาถึงนี้
ไม่ว่าจะเป็นความพร้อมรองรับการหลั่งไหลของนักท่องเที่ยวและแรงงานต่างชาติ รวมถึงวางมาตรการป้องกันเหตุอาชญากรรมที่อาจเกิดขึ้น
ด้วยเหตุนี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. จึงมอบหมายให้ พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ รองผบ.ตร. ในฐานะประธานกรรมการการขับเคลื่อนการปฏิบัติเพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) จัดทำโครงการเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติงาน เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
เริ่มจากการวางระบบช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ โดยสั่งการให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองรับไปดำเนินการ เพื่อลดขั้นตอนและระยะเวลา
เดิมใช้เจ้าหน้าที่ตรวจต้องใช้เวลา 45 วินาทีต่อคน แต่ถ้าเป็นระบบช่องตรวจหนังสือ เดินทางอัตโนมัติ ใช้เวลาเพียง 20 วินาทีต่อคนเท่านั้น ทำให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว
ต่อมาเตรียมวางระบบตรวจผู้โดยสารล่วงหน้า โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะเข้าไปตรวจสอบข้อมูลผู้เดินทางเข้า ประเทศ ตั้งแต่เช็กอินกับเคาน์เตอร์ของสายการบิน
หากพบเป็นบุคคลต้องห้ามหรืออยู่ในบัญชีเฝ้าดูของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จะรายงานไปยังสายการบินให้พิจารณาการเดินทางทันที
นอกจากนี้ยังเตรียมเชื่อมโยงระบบหนังสือเดินทาง ด้วยการจัดตั้งศูนย์ตรวจหนังสือเดินทางปลอมทุกสนามบิน เพื่อคัดกรองบุคคลที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติ บุคคลที่มีประวัติการกระทำผิดในต่างประเทศ บุคคลที่ใช้หนังสือเดินทางที่แจ้งหายไว้ในประเทศสมาชิกตำรวจสากล 190 ประเทศทั่วโลก
หากพบตัวบุคคลที่มีประวัติ เจ้าหน้าที่จะเข้าจับกุมและส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนทันที คาดระบบนี้จะนำมาใช้ก่อนเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
เมื่อวางระบบการดำเนินงานจนมีความพร้อมแล้ว ในส่วนของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานก็มีความจำเป็นต้องได้รับการฝึกฝนด้วยเช่นกัน
จึงเตรียมตั้งศูนย์ต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อทำหน้าที่ลงข้อมูลแจ้งเตือนอาชญากรรม และเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานอื่น
โดยหน่วยงานนี้จะช่วยป้องกันชาวต่างชาติที่ทำผิดแล้วถูกส่งกลับประเทศ แต่อาจเปลี่ยนชื่อนามสกุลใหม่ เพื่อลอบกลับเข้ามาในประเทศไทยซ้ำอีก
ขั้นตอนการทำงานจะเชื่อมโยงข้อมูลอาชญากรรมข้ามชาติกับองค์กรตำรวจสากล เพื่อช่วยคัดกรองบุคคลอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ส่วนการสื่อสารกับบรรดาชาวต่างชาตินานาประเทศ เตรียมจัดหาล่าม เพื่อทำหน้าที่แจ้งสิทธิในกรณีถูกขึ้นบัญชีเป็นบุคคลต้องห้าม เนื่องจากคนต่างด้าวส่วนใหญ่ไม่ค่อยทราบสิทธิ ข้อจำกัด และข้อห้ามในการเดินทางไปต่างประเทศ
สำหรับการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นก็มีความสำคัญเช่นกัน จึงเตรียมแจ้งหมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้ 24 ช.ม. พร้อมรายชื่อเจ้าหน้าที่รับผิดชอบไปยังทุกภาคส่วน เพื่อให้การทำงานคล่องตัว
สุดท้ายเตรียมจัดทำคู่มือการปฏิบัติงานให้ความรู้และแนวทางการคัดกรองบุคคลต่างด้าว โดยส่วนนี้จะเป็นรายละเอียดของข้อกฎหมายสากลที่มีความสำคัญกับการทำหน้าที่
โดยเตรียมจัดทำเป็น 10 ภาษาของประเทศ ในอาเซียนและประเทศอื่นๆ ซึ่งมี พ.ต.อ. คมสัน สุขมากรอง ผบก.สถาบันส่งเสริมงานสอบสวน ทำหน้าที่ประสานความร่วมมือไปยังกรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศ และสถานทูตของประเทศต่างๆ
นอกจากการวางระบบตรวจสอบการเดินทางเข้าประเทศอย่างเข้มข้น พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ยังลงพื้นที่ตรวจความพร้อมตามด่านตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหารและภูเก็ต
เบื้องต้นที่ด่านตม.มุกดาหาร ได้ปรับพื้นที่ตรวจบุคคลเข้าออก และพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในการตรวจคนเข้าเมืองให้ทันสมัยมีมาตรฐาน โดยประสานความร่วมมือกับสปป.ลาว
ขณะที่ตัวบุคคลได้ฝึกอบรมทักษะภาษาอังกฤษ ภาษาลาว ภาษาเวียดนาม และภาษาจีนให้กับเจ้าหน้าที่ด้วย
ส่วนด่านตม.ภูเก็ต ได้เตรียมความพร้อมด้านรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาทางเรือ บริเวณท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง
รวมทั้งยังร่วมลงนามการให้บริการศูนย์ควบคุมเรือยอชต์ และพัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์ในการเดินทางผ่านเข้าออก เพื่อให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว
พล.ต.อ.วุฒิ ยังมอบนโยบายเพิ่มเติมด้วยว่า เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวมากขึ้น อาทิ การติดตั้งกล้องวงจรปิดให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เพิ่มการติดตั้งแสงส่องสว่างในพื้นที่เสี่ยงอาชญากรรมทั้งหมด
นอกจากนี้ต้องเพิ่มระดับการมีส่วนร่วมของประชาชนในการเฝ้าระวังอาชญากรรม ยาเสพติดและการก่อการร้าย
โดยเชื่อว่าทั้งหมดนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่และประชาชนในการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนที่จะมาถึงนี้
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น